การติดแบล็คลิสจะแบ่งออกเป็น 2 กรณี ตามด้านล่างนะคะ

กรณีที่ 1 ลูกค้าติด (NCB) หมายถึง ลูกค้ามีประวัติการเงินที่ไม่ดี แต่ไม่ถึงขั้นร้ายแรง
เช่น เคยผ่อนเงินล่าช้า ติดค่ามือถือ 1,000 กว่าบาท เป็นต้น

  • หากลูกค้าประเภทนี้ต้องการซื้อรถ ผ่านการจัดไฟแนนซ์ ไฟแนนซ์จะให้ลูกค้าดาวน์เพิ่ม
  • ถ้าลูกค้าติดเครดิตบูโร ต้องเริ่มดาวน์ที่ 20% ขึ้น
  • ถ้าไม่มั่นใจว่าติดเครดิตบูโรมั้ย สามารถไปเช็คที่ธนาคารได้ค่ะ

กรณีที่ 2 ลูกค้าติดแบล็คลิส (Blacklist) หมายถึง ลูกค้ามีประวัติการเงินที่ไม่ดี ขั้นร้ายแรง
คือ ลูกค้าที่เคยทำนิติกรรมแล้วโดนฟ้อง เช่น เคยโดนยึดรถ บ้าน สิ่งของต่างๆ หรือ เป็นหนี้บัตรเครดิตก้อนใหญ่ ทั้งกรณีที่เป็นผู้ซื้อเองและเป็นผู้ค้ำประกันให้กับสินค้านั้นๆค่ะ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เดียวทางไฟแนนซ์จะเป็นผู้พิจารณาให้อีกทีค่ะ ลูกค้าอย่าเพิ่งกังวลไปนะคะ ^^ ลองปรึกษาก่อนได้ค่ะ

การติดแบล็คลิสจะแบ่งออกเป็น 2 กรณี ตามด้านล่างนะคะ

กรณีที่ 1 ลูกค้าติด (NCB) หมายถึง ลูกค้ามีประวัติการเงินที่ไม่ดี แต่ไม่ถึงขั้นร้ายแรง
เช่น เคยผ่อนเงินล่าช้า ติดค่ามือถือ 1,000 กว่าบาท เป็นต้น

  • หากลูกค้าประเภทนี้ต้องการซื้อรถ ผ่านการจัดไฟแนนซ์ ไฟแนนซ์จะให้ลูกค้าดาวน์เพิ่ม
  • ถ้าลูกค้าติดเครดิตบูโร ต้องเริ่มดาวน์ที่ 20% ขึ้น
  • ถ้าไม่มั่นใจว่าติดเครดิตบูโรมั้ย สามารถไปเช็คที่ธนาคารได้ค่ะ

กรณีที่ 2 ลูกค้าติดแบล็คลิส (Blacklist) หมายถึง ลูกค้ามีประวัติการเงินที่ไม่ดี ขั้นร้ายแรง
คือ ลูกค้าที่เคยทำนิติกรรมแล้วโดนฟ้อง เช่น เคยโดนยึดรถ บ้าน สิ่งของต่างๆ หรือ เป็นหนี้บัตรเครดิตก้อนใหญ่ ทั้งกรณีที่เป็นผู้ซื้อเองและเป็นผู้ค้ำประกันให้กับสินค้านั้นๆค่ะ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เดียวทางไฟแนนซ์จะเป็นผู้พิจารณาให้อีกทีค่ะ ลูกค้าอย่าเพิ่งกังวลไปนะคะ ^^ ลองปรึกษาก่อนได้ค่ะ