ขอขอบคุณเนื้อหาและรูปจาก https://www.grandprix.co.th/

ยังคงความโดดเด่นได้อย่างลงตัว ทั้งในด้านดีไซน์และใช้งานได้อย่างคุ้มค่า สำหรับ Mazda3 Carbon Edition Sport ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถได้อย่างครบถ้วน ทั้งรูปลักษณ์แบบสปอร์ตและเทคโนโลยีความปลอดภัย ซึ่งเป็นจุดเด่นในการคว้ารางวัล Thailand Car of The Year 2024 ซึ่งความพิเศษมีอะไรบ้าง มาติดตามกัน…

มุมมองจากคณะกรรมการ : ด้านการออกแบบ

  • Mazda3 Carbon Edition Sport สะท้อนความสปอร์ตทรงพลัง โฉบเฉี่ยว โดดเด่น ในทุกมุมมอง ด้วยสีภายนอกใหม่ สีเทา โพลีเมทัล
    เกรย์ เป็นครั้งแรก ตกแต่งตัดกับสีโทนเข้ม กระจกมองข้างสีดำ ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED Signature เพิ่มความสปอร์ตหรูที่เหนือกว่า
    กับหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้าและล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว
  • ทางด้านภายในตกแต่งด้วยหนังสีดำและด้ายสีแดง พร้อมเบาะหนังสีแดง Burgundy
    ปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ 2 ตำแหน่ง ระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง ผ่านหน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ที่ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander ซึ่งถูกจัดวางให้อยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งาน และสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ผ่านระบบ Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay และ Android Auto ผ่านระบบเสียง Bose รอบทิศทางพร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง

ขุมพลัง 2.0 ลิตร Skyactiv-G : ตอบสนองทุกการใช้งาน

  • Mazda3 Carbon Edition Sport ขับเคลื่อน ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน Skyactiv-G 2.0 ให้สมรรถนะความแรงควบคู่ กับการประหยัดน้ำมัน ด้วยเทคโนโลยีที่ฉีดเชื้อเพลิงสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง ทำให้มีอัตราส่วนกำลังอัดสูง ให้แรงม้าและแรงบิดต่อเนื่องในทุกช่วงการทำงาน ให้กำลัง 165 แรงม้าแรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร รองรับน้ำมัน E85 อัตราสิ้นเปลือง 15.9 กม./ลิตร ระบบส่งกำลัง Skyactiv-Drive เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ให้การตอบสนองแม่นยำในทุกรอบความเร็ว พร้อมแมนวลโหมด Activematic

มุมมองจากคณะกรรมการ : ขับสนุกและปลอดภัยมากขึ้น + ขีดสุดของระบบความปลอดภัย

  • ด้วยระบบ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ที่พัฒนา ต่อยอดจากระบบ GVC ช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล โดยเฉพาะ ในทางโค้ง และในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้นเพื่อให้ผู้ขับสัมผัสถึงความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันของคนกับรถได้อย่างสมบูรณ์แบบ
  • มาสด้ายกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี i-Activsense ได้รับการคิดค้นและพัฒนาขีดความสามารถอย่างจริงจัง โดยเน้นการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ประกอบด้วย
    • ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support) ที่สามารถควบคุมความเร็วของรถ ช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
    • ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support) ที่สามารถตรวจจับรถคันหน้า จักรยาน รวมถึงคนเดินถนน
    • ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Reverse Crossing)
    • ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
    • ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse) ที่สามารถตรวจจับวัตถุในวงกว้างและสูงขึ้น ด้วยจำนวนเซ็นเซอร์ที่มากขึ้น
    • ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps) ที่ได้รับการพัฒนาให้ลำแสงละเอียดยิ่งขึ้น
    • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
    • ระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง (360° View Monitor)
    • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane Keep Assist System)
    • ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
    • ระบบเตือนเมื่อเกิดความอ่อนล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
    • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
    • และปกป้องทันทีจากอุบัติเหตุด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง