ในปัจจุบัน “รถยนต์ส่วนบุคคล” ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวันสำหรับใครหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะมีความเป็นส่วนตัว และยังเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางให้ง่ายขึ้นแล้ว  ก็ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย แถมในบางครั้งก็ช่วยประหยัดเวลามากกว่าการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ อีกทั้งยังถือเป็นทรัพย์สินของเราอีกด้วย 

          แต่ทั้งนี้การซื้อรถยนต์ 1 คัน จะต้องมีการศึกษาข้อมูลเพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจ ซึ่งอาจกลายเป็นอุปสรรคของใครหลายคน เพราะไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหนดีถึงจะได้รถยนต์ที่โดนใจหรือสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองได้ วันนี้ทาง JP Blog เลยสรุปเป็นประโยค 5 คำถามสำหรับการเลือกซื้อรถยนต์มาฝากกันค่ะ หากตอบได้ครบรับรองว่าคุณสามาถวางแผนและเลือกรถที่ตรงใจได้อย่างแน่นอน

  1. Findind Your “WHY”
(เหตุผลการซื้อรถครั้งนี้ของคุณคืออะไร)

เราควรตอบตัวเองให้ได้ว่า การซื้อรถครั้งนี้เราต้องการใช้งานรถในด้านไหน
หรือต้องการซื้อเพราะอะไร เพราะว่ามันจะทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

  • ใช้สำหรับเดินทางไปทำงาน – เรียน  : มักจะเป็นการใช้งานคนเดียว อาจเลือกรถที่คล่องตัว อำนวยความสะดวกต่อเรามากที่สุด
  • ใช้สำหรับการท่องเที่ยว : อาจจะต้องเลือกรถที่มีพื้นที่สำหรับผู้โดยสารที่จะร่วมทางไปกับเรา รวมถึงพื้นที่สำหรับการเก็บสัมภาระ 
  • เป็นความภาคภูมิใจของตนเอง : บางคนมีเป้าหมายหรือความใฝ่ฝันว่า อยากมีรถสักหนึ่งคันเป็นของตัวเอง เปรียบเสมือนเป็นของขวัญจากการใช้ชีวิต 
  • เพื่อความปลอดภัย : บางคนต้องการความมั่นใจในความปลอดภัยขณะเดินทาง เช่นต้องการรถเพราะเลิกงานดึก เดินทางลำบากเป็นต้น
  • ใช้รับส่งและดูแลครอบครัว : ส่วนใหญ่แล้วมักจะเลือกรถที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เน้นจำนวนที่นั่งที่เพียงพอต่อคนในครอบครัว คำนึงถึงความสบายในการนั่งของผู้โดยสารเป็นหลัก

2. Your Investment of Happiness
(ใจจริงชอบรุ่นไหน)

คำถามข้อนี้คุณอาจเปิดข้อมูลรถหรือดูรูปรถประเภทต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กันเลยก็ได้นะคะ
เพื่อความชัวร์ว่าภาพรถในความคิดเราคือประเภทนี้ใช่หรือเปล่า

  • รถสปอร์ต
             คือ ส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ 2 ประตู หรือ 2 ที่นั่ง และมักจะเป็นรถที่มีเครื่องยนต์สมรรถนะสูง ตัวรถจะมีความโดดเด่น ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีงบค่อนข้างเยอะ
  • รถเก๋ง
             คือ รถที่มีตัวถัง 4 ประตูแบบทั่ว ๆ ไป เป็นรถที่พบเห็นได้มากที่สุดบนท้องถนน บางคนอาจจะเรียกว่า Sedan (ซีดาน) หรือในบางรุ่นอาจทำออกมาเป็น 5 ประตู จะเรียกว่า hatchback (แฮทช์แบ็ก)
  • รถ SUV
             คือ รถอเนกประสงค์ประเภทหนึ่ง ส่วนใหญ่จะมี 5-7 ที่นั่ง มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่ารถยนต์ทั่วไป เก็บสัมภาระได้มากกว่า แต่ยังคงความสวยงามเอาไว้ และจะมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
  • รถกระบะ หรือ รถพิกอัป
           คือ รถยนต์ที่มีห้องโดยสารอยู่ส่วนหน้า ซึ่งจะมีทั้ง 2 ประตู หรือ 4 ประตู และหลังเป็นกระบะสำหรับบรรทุกของ สามารถเปิดท้ายได้ สำหรับคนที่เน้นบรรทุกสิ่งของบอกเลยว่าเหมาะมาก

          รถในแต่ละประเภทอาจมีประเภทรถที่ย่อยลงไปอีก ชื่อเรียกต่างกันแต่ลักษณะตัวถังอาจจะไม่ได้แตกต่างกันมาก หรืออาจจะมีขนาดของตัวใหญ่ที่เล็กกว่าใหญ่กว่า ในส่วนนี้คุณจะต้องดูข้อมูลเพิ่มเติมว่ารถที่เราต้องการนั้นแท้จริงแล้วเป็นรถประเภทใด

3.Your budget
(งบประมาณสำหรับซื้อรถคือเท่าไหร่)

ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก ๆ เพราะนอกจากจะส่งผลต่อการเลือกประเภทรถแล้ว
ยังเป็นสิ่งที่หลายคนคำนึงถึงมากที่สุดในการซื้อรถ นั่นคือ“งบประมาณหรือเงินในกระเป๋า”
คุ
ณจำเป็นต้องรู้ว่าสถานะทางการเงินในตอนนี้เป็นอย่างไร
เพียงพอต่อการออกรถในตอนนี้หรือไม่

          สิ่งที่หลายคนคำนึงถึงมากที่สุดในการซื้อรถ นั่นคือ งบประมาณหรือเงินในกระเป๋า คุณจำเป็นต้องรู้ว่าสถานะทางการเงินในตอนนี้เป็นอย่างไร เพียงพอต่อการออกรถในตอนนี้หรือไม่ 

  • ซื้อเงินสดหรือซื้อเงินผ่อน
             คุณต้องเลือกว่าคุณจะซื้อรถแบบซื้อสด จ่ายเป็นเงินก้อนใหญ่ทีเดียวจบ หรือต้องการซื้อแบบเงินผ่อน ซึ่งการซื้อแบบผ่อนสิ่งที่จะตามมาคือค่างวดในทุก ๆ เดือน
  • เงินเก็บเฉลี่ยเดือนละเท่าไหร่
             เมื่อคุณตัดสินใจที่จะซื้อรถ การวางแผนสำหรับเงินเก็บเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากเพราะอาจถือได้ว่าเป็นเงินสำรองยามฉุกเฉินก็ว่าได้ ดังนั้นคุณจะต้องรู้ว่าในแต่ละเดือนจะต้องมีเงินเก็บจำนวนเท่าไหร่ เมื่อรู้เงินเก็บเฉลี่ยต่อเดือนแล้ว ก็จะสามารถคำนวณเงินผ่อนต่อเดือนได้ ให้เลือกคำนวณตามกำลังที่ผ่อนไหว
  • ดาวน์มากสุดได้เท่าไหร่
            เราแนะนำให้คุณผ่อนรถไม่เกิน 30-35% ของรายได้ ดังนั้นหากคุณต้องการผ่อนเพียงเดือนละ 30-35% ของรายได้ คุณอาจจะต้องเพิ่มเงินดาวน์ให้สูงขึ้น และกำหนดระยะเวลาในการผ่อนให้ยืดหยุ่นตามสภาพคล่องทางการเงินของคุณ ก็จะทำให้คุณสามารถซื้อรถเงินผ่อนโดยชำระค่างวดได้อย่างสบายใจแล้ว

           นอกจากค่าผ่อนรถต่อเดือนแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกอย่าง คือ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ตามมา หรือจะเรียกว่า “ค่าใช้จ่ายแฝง” ก็ได้ อาจจะเป็นได้ทั้งค่าใช้จ่ายประจำเดือนและค่าใช้จ่ายประจำปี  อาทิเช่น

ค่าซ่อมบำรุงค่าใช้จ่ายหลังซื้อรถ

?ค่าประกันรถ หรือ ประกันภัยรถยนต์
?ค่าต่อทะเบียนรถ
?ค่าน้ำมัน
?ค่าซ่อมบำรุง
?ค่าล้างรถ

             เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายโดยประมาณได้แล้ว คุณก็สามารถเลือกรุ่นรถในเบื้องต้นได้  และสิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการทดลองขับ เพื่อดูว่ารถรุ่นที่เลือกนั้นเหมาะสมกับเรามากน้อยเพียงใด จึงเริ่มเข้าสู่คำถามข้อที่ 4 นั่นคือ การอ่านข้อมูลรถและการทดลองขับ 

             และแน่นอนว่าก่อนที่จะเลือกซื้อรถสักคัน ทุกคนจะต้องผ่านการอ่านรีวิวหรือดูคลิปรีวิวการใช้งานของรถรุ่นนั้น ๆ แต่ทั้งนี้การอ่านรีวิวอาจจะไม่ใช่คำตอบทั้งหมด จนกว่าจะได้มีการทดลองขับด้วยตัวเองจริง ๆ 

4. Your test drive
(ลองขับรถคันจริงหรือยัง)

การทดลองขับ เป็นสิ่งสำคัญมากในกระบวนการซื้อรถเลยก็ว่าได้
เพราะคุณจะได้รู้ว่ารถคันนี้ รุ่นนี้ ขับเป็นอย่างไรใช่สไตล์คุณหรือเปล่า
และเหมาะสมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณหรือไม่

แล้วการทดลองขับต้องดูอะไรบ้างล่ะ ? เราไปอ่านพร้อม ๆ กันเลย

  • ไฟสัญญาณต่าง ๆ ทำงานดีไหม
              ตรวจดูว่าไฟสัญญาณต่าง ๆ ทำงานดีไหม เพราะไฟสัญญาณส่งผลต่อการใช้งานรถทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นไฟแจ้งเตือนระบบรถ ไฟเลี้ยว ไฟท้าย เป็นต้น
  • การตอบสนองของระบบควบคุมพวงมาลัยขณะเลี้ยว
              ดูว่าความแม่นยำของพวงมาลัยเป็นไปตามที่เราควบคุมหรือไม่ การหักซ้ายสุดขวาสุดเป็นอย่างไร และดูว่าขณะขับขี่พวงมาลัยมีอาการสั่นหรือไม่
  • ระบบเกียร์ทำงานดีไหม
              ทดลองดูว่าระบบเกียร์ทำงานเป็นอย่างไรหาก เป็นเกียร์อัตโนมัติก็ให้ดูความลื่นไหลในการเปลี่ยนเกียร์ ว่าเวลาเปลี่ยนไม่กระตุก แต่ถ้าหากเกียร์ธรรมดาให้ดูว่าเข้าเกียร์ง่ายไหม คลัตช์หนักเกินไปหรือเปล่า
  • เสียงเครื่องยนต์ดังเกินไปไหม 
              สังเกตเสียงเครื่องยนรต์ขณะที่ขับขี่ดูว่ามีเสียงดังหรือเปล่าเพื่อตรวจเช็คว่าเครื่องยนต์มีปัญหาหรือไม่
  • ระบบเบรคตอบสนองรวดเร็วพอไหม
              ดูการตอบสนองของแป้นเบรกว่าทำได้ดีหรือไม่ เช่น การลองเหยียบเบรกแบบกระทันหัน การลองเบรกขณะขึ้นลงเนิน หรือการเบรกในขณะขับขี่ปกติว่าสามารถทำได้ดีหรือไม่
  • ช่วงล่าง support การขับขี่ไหม? มีการสั่นเกินควรหรือไม่
              ดูว่าช่วงล่างขณะขับขี่เป็นอย่างไร ความรู้สึกขณะขับขี่นุ่มนวลหรือเปล่ารถสั่นเกินไปหรือไม่  และเวลาที่ขับรถขณะเข้าโค้งรถแกว่งหรือไม่? เป็นต้น

          การทดลองขับไม่ใช่เรื่องยากเลยใชไหมคะ แค่ดูว่ารถคันนี้เหมาะสมกับเราหรือไม่ มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบตามที่ต้องการไหม แค่นี้คุณก็ได้รถที่ตรงใจแล้วล่ะค่ะ

5. Your financial plan
(รูปแบบทางการเงินแบบไหนเหมาะสุดสำหรับเรา)

เป็นการเลือกข้อเสนอที่คิดว่าเหมาะสมกับที่สุด โดยอิงข้อมูลมาจากคำถามข้อที่ 3 เกี่ยวกับสถานะทางการเงินของคุณ
ซึ่งในส่วนนี้เป็นการเลือกคุยกับที่ปรึกษาการขายเพื่อให้ลองคำนวณข้อเสนอในรูปแบบต่าง ๆที่เป็นได้
แล้วคุณค่อยตัดสินใจเลือกอีกที

 

โดยรายละเอียดที่ต้องพิจารณาเป็นหลัก คือ 

  • ดาวน์เท่าไหร่
  • ผ่อนเท่าไหร่
  • ดอกเบี้ยรวมคือเท่าไหร่

         ในส่วนตรงนี้คุณต้องพิจารณาดี ๆ เพราะภาระเหล่านี้จะอยู่กับคุณไปนานหลายปี คำแนะนำเล็ก ๆ คือ ยิ่งดาวน์สูง จะทำให้ระยะเวลาการผ่อนน้อยลงและดอกเบี้ยจะน้อยตามลงไปด้วย แต่สำหรับใครที่ไม่สามารถดาวน์สูง ๆ ได้ ก็แนะนำให้เลือกแบบดาวน์น้อย ผ่อนยาว ๆ ซึ่งแบบนี้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยเยอะหน่อย แต่ก็แลกกับสภาวะการทางการเงินของคุณที่คล่องตัวมากขึ้น

ที่สำคัญที่สุด คือ ควรเลือกพููดคุยกับที่ปรึกษาการขายที่น่าเชื่อถือ และคิดว่าให้คำปรึกษาได้ดีที่สุด อาจดูจากการรีวิวจากคนที่เคยออกรถด้วย สอบถามจากคนใกล้ตัว เพื่อนร่วมงาน เป็นต้น

         

          ดังนั้นการจะซื้อรถยนต์สัก 1 คัน ควรจะมีการหาข้อมูลและพิจารณาดี ๆ อาจจะดูยุ่งยากนิดหน่อย แต่ก็ส่งผลดีในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องทางการเงินหรือรุ่นรถที่เหมาะสมและตรงใจ ฉะนั้นแล้ว หากคุณสามารถตอบคำถามทั้ง 5 ข้อนี้ได้ เรื่องยุ่งยากที่เกิดขึ้น ก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ สบาย ๆ ในทันทีค่ะ

         สุดท้ายนี้ สำหรับท่านใดที่ต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดรถและต้องการทดลองขับที่ มาสด้า เจพี ท่านสามารถติดต่อมาตามช่องทางด้านล่างนี้ได้เลย

       ?LINE@ : คลิ๊ก http://line.me/ti/p/~@mazdajp

       ?FB Inbox : คลิ๊ก m.me/mazdajpcar

      JP Blog หวังว่าคอนเทนต์นี้จะช่วยให้ใครหลาย ๆ คน สามารถพิจารณาและตัดสินใจซื้อรถได้ง่ายขึ้นนะคะ

        แล้วเจอกันใหม่ในคอนเทนตืต่อไป สวัสดีค่ะ^^

          ในปัจจุบัน “รถยนต์ส่วนบุคคล” ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวันสำหรับใครหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะมีความเป็นส่วนตัว และยังเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางให้ง่ายขึ้นแล้ว  ก็ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย แถมในบางครั้งก็ช่วยประหยัดเวลามากกว่าการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ อีกทั้งยังถือเป็นทรัพย์สินของเราอีกด้วย 

          แต่ทั้งนี้การซื้อรถยนต์ 1 คัน จะต้องมีการศึกษาข้อมูลเพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจ ซึ่งอาจกลายเป็นอุปสรรคของใครหลายคน เพราะไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหนดีถึงจะได้รถยนต์ที่โดนใจหรือสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองได้ วันนี้ทาง JP Blog เลยสรุปเป็นประโยค 5 คำถามสำหรับการเลือกซื้อรถยนต์มาฝากกันค่ะ หากตอบได้ครบรับรองว่าคุณสามาถวางแผนและเลือกรถที่ตรงใจได้อย่างแน่นอน

  1. Findind Your “WHY”
(เหตุผลการซื้อรถครั้งนี้ของคุณคืออะไร)

เราควรตอบตัวเองให้ได้ว่า การซื้อรถครั้งนี้เราต้องการใช้งานรถในด้านไหน
หรือต้องการซื้อเพราะอะไร เพราะว่ามันจะทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

  • ใช้สำหรับเดินทางไปทำงาน – เรียน  : มักจะเป็นการใช้งานคนเดียว อาจเลือกรถที่คล่องตัว อำนวยความสะดวกต่อเรามากที่สุด
  • ใช้สำหรับการท่องเที่ยว : อาจจะต้องเลือกรถที่มีพื้นที่สำหรับผู้โดยสารที่จะร่วมทางไปกับเรา รวมถึงพื้นที่สำหรับการเก็บสัมภาระ 
  • เป็นความภาคภูมิใจของตนเอง : บางคนมีเป้าหมายหรือความใฝ่ฝันว่า อยากมีรถสักหนึ่งคันเป็นของตัวเอง เปรียบเสมือนเป็นของขวัญจากการใช้ชีวิต 
  • เพื่อความปลอดภัย : บางคนต้องการความมั่นใจในความปลอดภัยขณะเดินทาง เช่นต้องการรถเพราะเลิกงานดึก เดินทางลำบากเป็นต้น
  • ใช้รับส่งและดูแลครอบครัว : ส่วนใหญ่แล้วมักจะเลือกรถที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เน้นจำนวนที่นั่งที่เพียงพอต่อคนในครอบครัว คำนึงถึงความสบายในการนั่งของผู้โดยสารเป็นหลัก

2. Your Investment of Happiness
(ใจจริงชอบรุ่นไหน)

คำถามข้อนี้คุณอาจเปิดข้อมูลรถหรือดูรูปรถประเภทต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กันเลยก็ได้นะคะ
เพื่อความชัวร์ว่าภาพรถในความคิดเราคือประเภทนี้ใช่หรือเปล่า

  • รถสปอร์ต
             คือ ส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ 2 ประตู หรือ 2 ที่นั่ง และมักจะเป็นรถที่มีเครื่องยนต์สมรรถนะสูง ตัวรถจะมีความโดดเด่น ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีงบค่อนข้างเยอะ
  • รถเก๋ง
            คือ รถที่มีตัวถัง 4 ประตูแบบทั่ว ๆ ไป เป็นรถที่พบเห็นได้มากที่สุดบนท้องถนน บางคนอาจจะเรียกว่า Sedan (ซีดาน) หรือในบางรุ่นอาจทำออกมาเป็น 5 ประตู จะเรียกว่า hatchback (แฮทช์แบ็ก)
  • รถ SUV
    คือ รถอเนกประสงค์ประเภทหนึ่ง ส่วนใหญ่จะมี 5-7 ที่นั่ง มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่ารถยนต์ทั่วไป เก็บสัมภาระได้มากกว่า แต่ยังคงความสวยงามเอาไว้ และจะมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
  • รถกระบะ หรือ รถพิกอัป
            คือ รถยนต์ที่มีห้องโดยสารอยู่ส่วนหน้า ซึ่งจะมีทั้ง 2 ประตู หรือ 4 ประตู และหลังเป็นกระบะสำหรับบรรทุกของ สามารถเปิดท้ายได้ สำหรับคนที่เน้นบรรทุกสิ่งของบอกเลยว่าเหมาะมาก

          รถในแต่ละประเภทอาจมีประเภทรถที่ย่อยลงไปอีก ชื่อเรียกต่างกันแต่ลักษณะตัวถังอาจจะไม่ได้แตกต่างกันมาก หรืออาจจะมีขนาดของตัวใหญ่ที่เล็กกว่าใหญ่กว่า ในส่วนนี้คุณจะต้องดูข้อมูลเพิ่มเติมว่ารถที่เราต้องการนั้นแท้จริงแล้วเป็นรถประเภทใด

3.Your budget
(งบประมาณสำหรับซื้อรถคือเท่าไหร่)

ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก ๆ เพราะนอกจากจะส่งผลต่อการเลือกประเภทรถแล้ว
ยังเป็นสิ่งที่หลายคนคำนึงถึงมากที่สุดในการซื้อรถ นั่นคือ“งบประมาณหรือเงินในกระเป๋า”
คุ
ณจำเป็นต้องรู้ว่าสถานะทางการเงินในตอนนี้เป็นอย่างไร
เพียงพอต่อการออกรถในตอนนี้หรือไม่

          สิ่งที่หลายคนคำนึงถึงมากที่สุดในการซื้อรถ นั่นคือ งบประมาณหรือเงินในกระเป๋า คุณจำเป็นต้องรู้ว่าสถานะทางการเงินในตอนนี้เป็นอย่างไร เพียงพอต่อการออกรถในตอนนี้หรือไม่ 

  • ซื้อเงินสดหรือซื้อเงินผ่อน
             คุณต้องเลือกว่าคุณจะซื้อรถแบบซื้อสด จ่ายเป็นเงินก้อนใหญ่ทีเดียวจบ หรือต้องการซื้อแบบเงินผ่อน ซึ่งการซื้อแบบผ่อนสิ่งที่จะตามมาคือค่างวดในทุก ๆ เดือน
  • เงินเก็บเฉลี่ยเดือนละเท่าไหร่
             เมื่อคุณตัดสินใจที่จะซื้อรถ การวางแผนสำหรับเงินเก็บเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากเพราะอาจถือได้ว่าเป็นเงินสำรองยามฉุกเฉินก็ว่าได้ ดังนั้นคุณจะต้องรู้ว่าในแต่ละเดือนจะต้องมีเงินเก็บจำนวนเท่าไหร่ เมื่อรู้เงินเก็บเฉลี่ยต่อเดือนแล้ว ก็จะสามารถคำนวณเงินผ่อนต่อเดือนได้ ให้เลือกคำนวณตามกำลังที่ผ่อนไหว
  • ดาวน์มากสุดได้เท่าไหร่
            เราแนะนำให้คุณผ่อนรถไม่เกิน 30-35% ของรายได้ ดังนั้นหากคุณต้องการผ่อนเพียงเดือนละ 30-35% ของรายได้ คุณอาจจะต้องเพิ่มเงินดาวน์ให้สูงขึ้น และกำหนดระยะเวลาในการผ่อนให้ยืดหยุ่นตามสภาพคล่องทางการเงินของคุณ ก็จะทำให้คุณสามารถซื้อรถเงินผ่อนโดยชำระค่างวดได้อย่างสบายใจแล้ว

           นอกจากค่าผ่อนรถต่อเดือนแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกอย่าง คือ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ตามมา หรือจะเรียกว่า “ค่าใช้จ่ายแฝง” ก็ได้ อาจจะเป็นได้ทั้งค่าใช้จ่ายประจำเดือนและค่าใช้จ่ายประจำปี  อาทิเช่น

ค่าซ่อมบำรุงค่าใช้จ่ายหลังซื้อรถ

?ค่าประกันรถ หรือ ประกันภัยรถยนต์
?ค่าต่อทะเบียนรถ
?ค่าน้ำมัน
?ค่าซ่อมบำรุง
?ค่าล้างรถ

             เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายโดยประมาณได้แล้ว คุณก็สามารถเลือกรุ่นรถในเบื้องต้นได้  และสิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการทดลองขับ เพื่อดูว่ารถรุ่นที่เลือกนั้นเหมาะสมกับเรามากน้อยเพียงใด จึงเริ่มเข้าสู่คำถามข้อที่ 4 นั่นคือ การอ่านข้อมูลรถและการทดลองขับ 

             และแน่นอนว่าก่อนที่จะเลือกซื้อรถสักคัน ทุกคนจะต้องผ่านการอ่านรีวิวหรือดูคลิปรีวิวการใช้งานของรถรุ่นนั้น ๆ แต่ทั้งนี้การอ่านรีวิวอาจจะไม่ใช่คำตอบทั้งหมด จนกว่าจะได้มีการทดลองขับด้วยตัวเองจริง ๆ 

4. Your test drive
(ลองขับรถคันจริงหรือยัง)

การทดลองขับ เป็นสิ่งสำคัญมากในกระบวนการซื้อรถเลยก็ว่าได้
เพราะคุณจะได้รู้ว่ารถคันนี้ รุ่นนี้ ขับเป็นอย่างไรใช่สไตล์คุณหรือเปล่า
และเหมาะสมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณหรือไม่

แล้วการทดลองขับต้องดูอะไรบ้างล่ะ ? เราไปอ่านพร้อม ๆ กันเลย

  • ไฟสัญญาณต่าง ๆ ทำงานดีไหม
              ตรวจดูว่าไฟสัญญาณต่าง ๆ ทำงานดีไหม เพราะไฟสัญญาณส่งผลต่อการใช้งานรถทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นไฟแจ้งเตือนระบบรถ ไฟเลี้ยว ไฟท้าย เป็นต้น
  • การตอบสนองของระบบควบคุมพวงมาลัยขณะเลี้ยว
              ดูว่าความแม่นยำของพวงมาลัยเป็นไปตามที่เราควบคุมหรือไม่ การหักซ้ายสุดขวาสุดเป็นอย่างไร และดูว่าขณะขับขี่พวงมาลัยมีอาการสั่นหรือไม่
  • ระบบเกียร์ทำงานดีไหม
              ทดลองดูว่าระบบเกียร์ทำงานเป็นอย่างไรหาก เป็นเกียร์อัตโนมัติก็ให้ดูความลื่นไหลในการเปลี่ยนเกียร์ ว่าเวลาเปลี่ยนไม่กระตุก แต่ถ้าหากเกียร์ธรรมดาให้ดูว่าเข้าเกียร์ง่ายไหม คลัตช์หนักเกินไปหรือเปล่า
  • เสียงเครื่องยนต์ดังเกินไปไหม 
              สังเกตเสียงเครื่องยนรต์ขณะที่ขับขี่ดูว่ามีเสียงดังหรือเปล่าเพื่อตรวจเช็คว่าเครื่องยนต์มีปัญหาหรือไม่
  • ระบบเบรคตอบสนองรวดเร็วพอไหม
              ดูการตอบสนองของแป้นเบรกว่าทำได้ดีหรือไม่ เช่น การลองเหยียบเบรกแบบกระทันหัน การลองเบรกขณะขึ้นลงเนิน หรือการเบรกในขณะขับขี่ปกติว่าสามารถทำได้ดีหรือไม่
  • ช่วงล่าง support การขับขี่ไหม? มีการสั่นเกินควรหรือไม่
              ดูว่าช่วงล่างขณะขับขี่เป็นอย่างไร ความรู้สึกขณะขับขี่นุ่มนวลหรือเปล่ารถสั่นเกินไปหรือไม่  และเวลาที่ขับรถขณะเข้าโค้งรถแกว่งหรือไม่? เป็นต้น

          การทดลองขับไม่ใช่เรื่องยากเลยใชไหมคะ แค่ดูว่ารถคันนี้เหมาะสมกับเราหรือไม่ มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบตามที่ต้องการไหม แค่นี้คุณก็ได้รถที่ตรงใจแล้วล่ะค่ะ

5. Your financial plan
(รูปแบบทางการเงินแบบไหนเหมาะสุดสำหรับเรา)

เป็นการเลือกข้อเสนอที่คิดว่าเหมาะสมกับที่สุด โดยอิงข้อมูลมาจากคำถามข้อที่ 3 เกี่ยวกับสถานะทางการเงินของคุณ ซึ่งในส่วนนี้เป็นการเลือกคุยกับที่ปรึกษาการขายเพื่อให้ลองคำนวณข้อเสนอในรูปแบบต่าง ๆที่เป็นได้ แล้วคุณค่อยตัดสินใจเลือกอีกที

 โดยรายละเอียดที่ต้องพิจารณาเป็นหลัก คือ 

  • ดาวน์เท่าไหร่
  • ผ่อนเท่าไหร่
  • ดอกเบี้ยรวมคือเท่าไหร่

         ในส่วนตรงนี้คุณต้องพิจารณาดี ๆ เพราะภาระเหล่านี้จะอยู่กับคุณไปนานหลายปี คำแนะนำเล็ก ๆ คือ ยิ่งดาวน์สูง จะทำให้ระยะเวลาการผ่อนน้อยลงและดอกเบี้ยจะน้อยตามลงไปด้วย แต่สำหรับใครที่ไม่สามารถดาวน์สูง ๆ ได้ ก็แนะนำให้เลือกแบบดาวน์น้อย ผ่อนยาว ๆ ซึ่งแบบนี้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยเยอะหน่อย แต่ก็แลกกับสภาวะการทางการเงินของคุณที่คล่องตัวมากขึ้น

ที่สำคัญที่สุด คือ ควรเลือกพููดคุยกับที่ปรึกษาการขายที่น่าเชื่อถือ และคิดว่าให้คำปรึกษาได้ดีที่สุด อาจดูจากการรีวิวจากคนที่เคยออกรถด้วย สอบถามจากคนใกล้ตัว เพื่อนร่วมงาน เป็นต้น

          ดังนั้นการจะซื้อรถยนต์สัก 1 คัน ควรจะมีการหาข้อมูลและพิจารณาดี ๆ อาจจะดูยุ่งยากนิดหน่อย แต่ก็ส่งผลดีในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องทางการเงินหรือรุ่นรถที่เหมาะสมและตรงใจ ฉะนั้นแล้ว หากคุณสามารถตอบคำถามทั้ง 5 ข้อนี้ได้ เรื่องยุ่งยากที่เกิดขึ้น ก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ สบาย ๆ ในทันทีค่ะ

         สุดท้ายนี้ สำหรับท่านใดที่ต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดรถและต้องการทดลองขับที่ มาสด้า เจพี ท่านสามารถติดต่อมาตามช่องทางด้านล่างนี้ได้เลย

       ?LINE@ : คลิ๊ก http://line.me/ti/p/~@mazdajp

       ?FB Inbox : คลิ๊ก m.me/mazdajpcar

      JP Blog หวังว่าคอนเทนต์นี้จะช่วยให้ใครหลาย ๆ คน สามารถพิจารณาและตัดสินใจซื้อรถได้ง่ายขึ้นนะคะ

        แล้วเจอกันใหม่ในคอนเทนตืต่อไป สวัสดีค่ะ^^

“การบริการที่รวดเร็วและใส่ใจ คือ ภารกิจสำคัญของเรา”

ออกรถง่ายๆ กับ มาสด้า เจพี โปรโมชั่นดีๆ ไม่มีกั๊ก

✅ ดาวน์น้อย ✅ ผ่อนสบาย ✅ ดอกเบี้ยสบายๆ
————————————————–
✅ อยากมีรถคันแรกเราพร้อมให้คำปรึกษา
✅ อย่าเพิ่งตัดสินใจถ้ายังไม่ได้คุยกับเรา
✅ รับข้อเสนอพิเศษมากกว่าใครได้ที่ “มาสด้า เจพี”
✅ รับปรึกษาไฟแนนซ์ฟรี
✅ รับเทิร์นรถเก่าให้ราคาดี
✅ มีรถพร้อมส่งหลายรุ่น หลายสี

“การบริการที่รวดเร็วและใส่ใจ คือ ภารกิจสำคัญของเรา”

ออกรถง่ายๆ กับ มาสด้า เจพี โปรโมชั่นดีๆ ไม่มีกั๊ก

✅ ดาวน์น้อย ✅ ผ่อนสบาย ✅ ดอกเบี้ยสบายๆ
————————————————–
✅ อยากมีรถคันแรกเราพร้อมให้คำปรึกษา
✅ อย่าเพิ่งตัดสินใจถ้ายังไม่ได้คุยกับเรา
✅ รับข้อเสนอพิเศษมากกว่าใครได้ที่ “มาสด้า เจพี”
✅ รับปรึกษาไฟแนนซ์ฟรี
✅ รับเทิร์นรถเก่าให้ราคาดี
✅ มีรถพร้อมส่งหลายรุ่น หลายสี