Mazda 2 2018 ใหม่ล่าสุด
(อัพเดตล่าสุดวันที่ 14 ก.ย. 2561)
เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำหรับรถมาสด้า Mazda 2 รุ่นปี 2018 ใหม่ (ทั้งเครื่องยนต์ 1.3 เบนซิน และเครื่องยนต์ 1.5 คลีนดีเซล) ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มขึ้นจากรุ่นปี 2017.. ในบทความนี้ Mazda JP – มาสด้า เจพี จึงมาขอบอกจุดเด่นไมเนอร์เชนจ์ของ Mazda 2 2018 ใหม่นี้ ว่ามีรายการอะไรบ้าง มาดูกันเลยย..

เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G
Mazda 2 1.3 Standard (แบบ 4 ประตู) และ 1.3 Sports Standard (แบบ 5 ประตู)
– ไม่มีการปรับเพิ่มรายการอุปกรณ์มาตรฐาน –
Mazda 2 1.3 High (แบบ 4 ประตู) และ 1.3 Sports High (แบบ 5 ประตู)
- เพิ่มระบบ MZD CONNECT
- เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
- เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ
Mazda 2 1.3 High Connect (แบบ 4 ประตู) และ 1.3 Sports High Connect (แบบ 5 ประตู)
- เพิ่มไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light
- เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
- เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ
- เพิ่มระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control)
Mazda 2 1.3 High Plus (แบบ 4 ประตู) และ 1.3 Sports High Plus (แบบ 5 ประตู)
- เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจดุอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advance Blind Spot Monitoring, ABSM)
- เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert, RCTA)
- เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
- เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ
- เพิ่มระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control)
เครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D
Mazda 2 1.5 XD (แบบ 4 ประตู) และ 1.5 Sports XD (แบบ 5 ประตู)
- เพิ่มระบบกญุแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry)
- เพิ่มระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
- เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
- เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ
Mazda 2 1.5 XD High Connect (แบบ 4 ประตู) และ 1.5 Sports XD High Connect (แบบ 5 ประตู)
- เพิ่มหน้าจอ Active Driving Display แสดงข้อมูล การขับขี่แบบสี
- เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
- เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ
- เพิ่มระบบควบคุม ความเร็วคงที่ (Cruise Control)
Mazda 2 1.5 XD High Plus L (แบบ 4 ประตู) และ 1.5 Sports XD High Plus L (แบบ 5 ประตู)
- เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
- เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ
Highlight จุดเด่น รถ Mazda 2 2018
1. G-Vectoring Control
- Mazda 2 2018 ใหม่ทุกคัน ถูกติดตั้งระบบ G-Vectoring Control (GVC) มาในทุกรุ่นย่อย ซึ่งช่วยควบคุมการเข้าโค้งให้ดียิ่งขึ้น ลดการแก้พวงมาลัยเมื่อต้องเข้าโค้ง และลดอาการโคลงของตัวรถลง รวมถึงลดอาการเมารถได้ดีครับในช่วงถนนคดเคี้ยว
- คลิปสาธิต
2. ไฟหน้าแบบ LED
- คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไฟหน้าแบบ LED ใน Mazda 2 ทำให้รถดูมีสง่าราศีขึ้น สวยงามขึ้นเยอะทั้งเวลากลางวันและกลางคืน
- โดยไฟหน้าชุดนี้มาพร้อมไฟ Daytime Running Light แบบLEDในตัวเช่นกัน ซึ่งมีให้ใน 4 รุ่นย่อย ได้แก่
- 1.3 High Connect
- 1.3 High Plus
- 1.5 XD High Connect
- 1.5 XD High Plus L
3. Advanced Blind Spot Monitoring (ระบบ ABSM)
- ระบบนี้จะช่วยเตือนเมื่อมีรถขับเคลื่อนผ่านในจุดอับสายตาด้านข้างตัวรถ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะเปลี่ยนเลน
- ระบบนี้มีเฉพาะในรุ่นท็อปเท่านั้น (1.3 High Plus และ 1.5 XD High Plus L)
4. Rear Cross Traffic Alert (ระบบ RCTA)
- ระบบนี้จะช่วยเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนที่ผ่านขณะถอยหลัง โดยจะส่งสัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนบนกระจกมองข้างในด้านที่รถอีกคันกำลังขับเคลื่อนมา
- ระบบนี้มีเฉพาะในรุ่นท็อปเท่านั้น (1.3 High Plus และ 1.5 XD High Plus L)
5. เครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D 1.5 ลิตร
- แม้ว่า Mazda 2 จะมีเครื่องยนต์คลีนดีเซลมาให้เลือกตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังถือเป็นจุดขายสำคัญที่เหนือกว่าคู่แข่ง
- เพราะเครื่องยนต์ gen นี้ให้แรงบิดสูงสุดถึง 250 นิวตัน-เมตร พกความประหยัดถึง 26.3 กม./ลิตรเลยทีเดียว (เครื่องยนต์เบนซินประหยัดถึง 23.3 กม./ลิตร)
- อีกทั้งยังมาพร้อมกับ เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ที่ฉับไว ขณะที่ค่ายอื่นหันไปใช้เกียร์ CVT กันหมดแล้ว
6. รถ B Segment ขนาดเล็กกระทัดรัด
- จุดเด่นสุดท้ายนี้คงหนีไม่พ้นขนาดตัวถังของรถ Mazda 2 ที่มีเรือนร่างที่สวยงามกะทัดรัดลงตัว
- ขับในเมืองไปไหนมาไหนได้สะดวก ใช้พื้นที่ไม่มากในการเปลี่ยนเลน หรือ หาที่จอดทั้งข้างนอกและในบ้าน 🙂
- รูปทรงที่ถูกสร้างจาก แนวคิด KODO Design ทำให้ Mazda 2 ได้รับคำตอบรับที่ดีว่าเป็นรถเล็กที่ดูดีมากที่สุดคันหนึ่ง
สีภายนอก
เพื่อเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมี่ยมให้กับรถ มาสด้า 2 รุ่นปี 2018 (MY2018) สีภายนอกใหม่คือ สีแดงโซลเรดคริสตัล ใหม่จึงถูกแนะนำเพื่อทดแทนสีแดงโซลเรด ที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นสีเดียวกันกับสีตัวถังของ All New Mazda CX-5 รุ่นใหม่ปี 2017


สีแดง Soul Red Crystal สีเกรดพรีเมี่ยมใหม่ล่าสุดเฉพาะมาสด้า เนื้อสีหนา 3 ชั้น พ่นด้วยเทคโนโลยีล่าสุด ทำให้ได้เนื้อสีที่มีความละเอียดสูงสีสด มีความวาว สะท้อนแสงได้ดี และดูมีมิติยิ่งขึ้น
นอกจากสีแดงใหม่แล้ว ยังมีสีเทาใหม่ Machine Gray (แมชชีน เกรย์) เพิ่มเข้ามาให้เลือกสรรค์กันอีกด้วย โดยที่เทคนิคลงสีแบบเดียวกับสีแดง ทำให้ได้สี 3 ชั้นที่สะท้อนแสงได้ดีขึ้นกว่าสีชุดเดิม และทำให้มองเห็นมิติของสีเทาที่ชัดเจนขึ้น มีความเป็นโลหะ Metallic ที่สมจริงขึ้น

ทั้งนี้สีภายนอกของ มาสด้า 2 รุ่นปี 2018 (MY2018) ทั้งแบบ 4 และแบบ 5 ประตูมีให้เลือกทั้งสิ้น 7 สีดังต่อไปนี้
- สีแดง โซล เรด คริสตัล (SOUL RED CRYSRTAL) **
- สีเทา แมชชีน เกรย์ (MACHINE GRAY) **
- สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (SNOWFLAKE WHITE PEARL)
- สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช (TITANIUM FLASH)
- สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิค (ALUMINUM METALLIC)
- สีดำ เจ็ทแบล็ก (JETBLACK)
- สีน้ำเงิน อีเทอนอล บลู (ETERNAL BLUE)
หมายเหตุ**: สีภายนอกใหม่ที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า
ราคารถ
สำหรับเรื่องราคารถยนต์นั้น ทุกรุ่นราคาเท่าเดิม ไม่มีการปรับขึ้น
ยังคงราคาไว้เท่า Mazda 2 รุ่นปี 2017
Mazda 2 MY2018
เครื่องยนต์เบนซิน Sport & Sedan
1.3 Standard | ราคา 530,000 บาท |
1.3 High | ราคา 590,000 บาท |
1.3 High Connect | ราคา 620,000 บาท |
1.3 High Plus | ราคา 670,000 บาท |
Mazda 2 MY2018
เครื่องยนต์คลีนดีเซล Sport & Sedan
1.5 XD | ราคา 680,000 บาท |
1.5 XD High Connect | ราคา 750,000 บาท |
1.5 XD High Plus L | ราคา 789,000 บาท |
สีพิเศษ
จะมีอยู่ 3 สีที่มีราคาค่าสีเพิ่มเติมจากราคารถ
นั่นคือสีแดง สีเทา และสีขาวมุก
สีแดง | เพิ่ม 12,000 บาท |
สีเทา | เพิ่ม 10,000 บาท |
สีขาวมุก | เพิ่ม 7,000 บาท |
ย้ำกันอีกครั้งว่า การเปิดตัวอย่างทางการของรถมาสด้า Mazda 2 รุ่น MY2018 จะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดรอติดตามกันอย่างใกล้ชิด พวกเรา Mazda JP เองก็จะคอยอัพเดทอยู่เป็นระยะครับผม 🙂 และท่านใดสนใจข้อเสนอเยี่ยมๆ ของรถรุ่นเล็กประหยัดน้ำมัน Mazda 2 ปี 2018 นี้ รีบทักมาก่อนหมดสต็อกนะฮะ
Mazda 2 2018 ใหม่ล่าสุด
(อัพเดตล่าสุดวันที่ 14 ก.ย. 2561)
เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำหรับรถมาสด้า Mazda 2 รุ่นปี 2018 ใหม่ (ทั้งเครื่องยนต์ 1.3 เบนซิน และเครื่องยนต์ 1.5 คลีนดีเซล) ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มขึ้นจากรุ่นปี 2017.. ในบทความนี้ Mazda JP – มาสด้า เจพี จึงมาขอบอกจุดเด่นไมเนอร์เชนจ์ของ Mazda 2 2018 ใหม่นี้ ว่ามีรายการอะไรบ้าง มาดูกันเลยย..

เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G
Mazda 2 1.3 Standard (แบบ 4 ประตู) และ 1.3 Sports Standard (แบบ 5 ประตู)
– ไม่มีการปรับเพิ่มรายการอุปกรณ์มาตรฐาน –
Mazda 2 1.3 High (แบบ 4 ประตู) และ 1.3 Sports High (แบบ 5 ประตู)
- เพิ่มระบบ MZD CONNECT
- เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
- เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ
Mazda 2 1.3 High Connect (แบบ 4 ประตู) และ 1.3 Sports High Connect (แบบ 5 ประตู)
- เพิ่มไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light
- เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
- เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ
- เพิ่มระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control)
Mazda 2 1.3 High Plus (แบบ 4 ประตู) และ 1.3 Sports High Plus (แบบ 5 ประตู)
- เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจดุอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advance Blind Spot Monitoring, ABSM)
- เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert, RCTA)
- เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
- เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ
- เพิ่มระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control)
เครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D
Mazda 2 1.5 XD (แบบ 4 ประตู) และ 1.5 Sports XD (แบบ 5 ประตู)
- เพิ่มระบบกญุแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry)
- เพิ่มระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
- เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
- เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ
Mazda 2 1.5 XD High Connect (แบบ 4 ประตู) และ 1.5 Sports XD High Connect (แบบ 5 ประตู)
- เพิ่มหน้าจอ Active Driving Display แสดงข้อมูล การขับขี่แบบสี
- เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
- เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ
- เพิ่มระบบควบคุม ความเร็วคงที่ (Cruise Control)
Mazda 2 1.5 XD High Plus L (แบบ 4 ประตู) และ 1.5 Sports XD High Plus L (แบบ 5 ประตู)
- เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
- เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ
Highlight จุดเด่น รถ Mazda 2 2018
1. G-Vectoring Control
- Mazda 2 2018 ใหม่ทุกคัน ถูกติดตั้งระบบ G-Vectoring Control (GVC) มาในทุกรุ่นย่อย ซึ่งช่วยควบคุมการเข้าโค้งให้ดียิ่งขึ้น ลดการแก้พวงมาลัยเมื่อต้องเข้าโค้ง และลดอาการโคลงของตัวรถลง รวมถึงลดอาการเมารถได้ดีครับในช่วงถนนคดเคี้ยว
- คลิปสาธิต
2. ไฟหน้าแบบ LED
- คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไฟหน้าแบบ LED ใน Mazda 2 ทำให้รถดูมีสง่าราศีขึ้น สวยงามขึ้นเยอะทั้งเวลากลางวันและกลางคืน
- โดยไฟหน้าชุดนี้มาพร้อมไฟ Daytime Running Light แบบLEDในตัวเช่นกัน ซึ่งมีให้ใน 4 รุ่นย่อย ได้แก่
- 1.3 High Connect
- 1.3 High Plus
- 1.5 XD High Connect
- 1.5 XD High Plus L
3. Advanced Blind Spot Monitoring (ระบบ ABSM)
- ระบบนี้จะช่วยเตือนเมื่อมีรถขับเคลื่อนผ่านในจุดอับสายตาด้านข้างตัวรถ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะเปลี่ยนเลน
- ระบบนี้มีเฉพาะในรุ่นท็อปเท่านั้น (1.3 High Plus และ 1.5 XD High Plus L)
4. Rear Cross Traffic Alert (ระบบ RCTA)
- ระบบนี้จะช่วยเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนที่ผ่านขณะถอยหลัง โดยจะส่งสัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนบนกระจกมองข้างในด้านที่รถอีกคันกำลังขับเคลื่อนมา
- ระบบนี้มีเฉพาะในรุ่นท็อปเท่านั้น (1.3 High Plus และ 1.5 XD High Plus L)
5. เครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D 1.5 ลิตร
- แม้ว่า Mazda 2 จะมีเครื่องยนต์คลีนดีเซลมาให้เลือกตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังถือเป็นจุดขายสำคัญที่เหนือกว่าคู่แข่ง
- เพราะเครื่องยนต์ gen นี้ให้แรงบิดสูงสุดถึง 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที
- เครื่องยนต์คลีนดีเซลพกความประหยัดถึง 26.3 กม./ลิตรเลยทีเดียว (เครื่องยนต์เบนซินประหยัดถึง 23.3 กม./ลิตร)
- อีกทั้งยังมาพร้อมกับ เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ที่ฉับไว ขณะที่ค่ายอื่นหันไปใช้เกียร์ CVT กันหมดแล้ว
6. รถ B Segment ขนาดเล็กกระทัดรัด
- จุดเด่นสุดท้ายนี้คงหนีไม่พ้นขนาดตัวถังของรถ Mazda 2 ที่มีเรือนร่างที่สวยงามกะทัดรัดลงตัว
- รูปทรงที่ถูกสร้างจาก แนวคิด KODO Design ทำให้ Mazda 2 ได้รับคำตอบรับที่ดีว่าเป็นรถเล็กที่ดูดีมากที่สุดคันหนึ่ง
สีภายนอก
เพื่อเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมี่ยมให้กับรถ มาสด้า 2 รุ่นปี 2018 (MY2018) สีภายนอกใหม่คือ สีแดงโซลเรดคริสตัล ใหม่จึงถูกแนะนำเพื่อทดแทนสีแดงโซลเรด ที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นสีเดียวกันกับสีตัวถังของ All New Mazda CX-5 รุ่นใหม่ปี 2017


สีแดง Soul Red Crystal สีเกรดพรีเมี่ยมใหม่ล่าสุดเฉพาะมาสด้า เนื้อสีหนา 3 ชั้น พ่นด้วยเทคโนโลยีล่าสุด ทำให้ได้เนื้อสีที่มีความละเอียดสูงสีสด มีความวาว สะท้อนแสงได้ดี และดูมีมิติยิ่งขึ้น
นอกจากสีแดงใหม่แล้ว ยังมีสีเทาใหม่ Machine Gray (แมชชีน เกรย์) เพิ่มเข้ามาให้เลือกสรรค์กันอีกด้วย โดยที่เทคนิคลงสีแบบเดียวกับสีแดง ทำให้ได้สี 3 ชั้นที่สะท้อนแสงได้ดีขึ้นกว่าสีชุดเดิม และทำให้มองเห็นมิติของสีเทาที่ชัดเจนขึ้น มีความเป็นโลหะ Metallic ที่สมจริงขึ้น

ทั้งนี้สีภายนอกของ มาสด้า 2 รุ่นปี 2018 (MY2018) ทั้งแบบ 4 และแบบ 5 ประตูมีให้เลือกทั้งสิ้น 7 สีดังต่อไปนี้
- สีแดง โซล เรด คริสตัล (SOUL RED CRYSRTAL) **
- สีเทา แมชชีน เกรย์ (MACHINE GRAY) **
- สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (SNOWFLAKE WHITE PEARL)
- สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช (TITANIUM FLASH)
- สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิค (ALUMINUM METALLIC)
- สีดำ เจ็ทแบล็ก (JETBLACK)
- สีน้ำเงิน อีเทอนอล บลู (ETERNAL BLUE)
หมายเหตุ**: สีภายนอกใหม่ที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า
ราคารถ
สำหรับเรื่องราคารถยนต์นั้น ทุกรุ่นราคาเท่าเดิม ไม่มีการปรับขึ้น
ยังคงราคาไว้เท่า Mazda 2 รุ่นปี 2017
Mazda 2 MY2018
เครื่องยนต์เบนซิน Sport & Sedan
1.3 Standard | ราคา 530,000 บาท |
1.3 High | ราคา 590,000 บาท |
1.3 High Connect | ราคา 620,000 บาท |
1.3 High Plus | ราคา 670,000 บาท |
Mazda 2 MY2018
เครื่องยนต์คลีนดีเซล Sport & Sedan
1.5 XD | ราคา 680,000 บาท |
1.5 XD High Connect | ราคา 750,000 บาท |
1.5 XD High Plus L | ราคา 789,000 บาท |
สีพิเศษ
จะมีอยู่ 3 สีที่มีราคาค่าสีเพิ่มเติมจากราคารถ
นั่นคือสีแดง สีเทา และสีขาวมุก
สีแดง | เพิ่ม 12,000 บาท |
สีเทา | เพิ่ม 10,000 บาท |
สีขาวมุก | เพิ่ม 7,000 บาท |
ย้ำกันอีกครั้งว่า การเปิดตัวอย่างทางการของรถมาสด้า Mazda 2 รุ่น MY2018 จะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดรอติดตามกันอย่างใกล้ชิด พวกเรา Mazda JP เองก็จะคอยอัพเดทอยู่เป็นระยะครับผม 🙂 และท่านใดสนใจข้อเสนอเยี่ยมๆ ของรถรุ่นเล็กประหยัดน้ำมัน Mazda 2 ปี 2018 นี้ รีบทักมาก่อนหมดสต็อกนะฮะ